ธุรกิจกองทุนรวมมีความสำคัญกับตลาดการเงินของไทยและมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนและผู้จัดการกองทุนได้ทำหน้าที่เสมือนหนึ่งตัวแทนในการลงทุนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนซึ่งว่าจ้างให้ลงทุนผ่านการซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวม
ดังนั้น ความเชื่อถือไว้วางใจ (Trust) จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นในการที่จะให้ผู้จัดการกองทุนและบริษัทจัดการลงทุนดำเนินการเสมือนเป็นตัวแทนในการลงทุนให้
งานศึกษาของ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณดา จันทร์สม จากคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ที่ได้ตีพิมพ์ในวารสาร NIDA
Economic Review เรื่อง “ธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการกองทุนรวมในประเทศไทย”
ได้ ระบุ ปัญหาที่เกิดขึ้นในธุรกิจกองทุนรวมมักจะเกิดจากการไม่สมมาตรของข้อมูล (Asymmetric
Information) โดยส่วนมากเป็นเรื่องภาวะภัยทางศีลธรรม (Moral
Hazard) ของผู้จัดการกองทุนและบริษัทจัดการลงทุน
ซึ่งรูปแบบของพฤติกรรมไม่เหมาะสมในการบริหารจัดการกองทุน ได้แก่ การใช้ข้อมูลภายในเพื่อเอื้อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง
การสร้างกำไรให้พอร์ตส่วนตัว การเจาะจงนายหน้าค้าหลักทรัพย์เฉพาะรายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทในเครือ
การใช้กองทุนรวมเพื่อการหลบเลี่ยงภาษีของกลุ่มธุรกิจโดยเฉพาะกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
และการใช้กองทุนรวมเป็นช่องทางในการเลี่ยงการรายงานการถือครองทรัพย์สินของผู้มีอำนาจทางการเมือง
หรือเป็นช่องทางในการฟอกเงิน
นอกจากนั้น การกำกับดูแลบรรษัทภิบาลของบริษัทจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาคณะกรรมการบริหารของบริษัทอย่างมาก
โดยพบว่า
การเผยแพร่ข้อมูลของคณะกรรมการบริษัทผ่านทางเว็บไซต์ไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของคณะกรรมการในการที่จะช่วยเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนได้มากนัก
จากการที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ส่วนมากของบริษัทจัดการลงทุนจะมีความเชื่อมโยงกับสถาบันการเงินทั้งธนาคารพาณิชย์และบริษัทหลักทรัพย์
มีเพียงสองบริษัทเท่านั้นที่เป็นบริษัทมหาชนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ทำให้บทบาทของคณะกรรมการบริหารของบริษัทจัดการลงทุนอาจไม่สอดคล้องกับเกณฑ์กำกับดูแลบรรษัทภิบาลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เห็นได้จากการที่มีบริษัทจัดการลงทุนจำนวนมากที่มิได้เปิดเผยชื่อคณะกรรมการตรวจสอบและคณะกรรมการอิสระ
ซึ่งเป็นผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่อาจคาดหวังจากคณะกรรมการบริษัทในการที่จะมีบทบาทในการกำกับดูแลบรรษัทภิบาลของบริษัทจัดการลงทุนได้มากนัก
นอกจากบทบาทของคณะกรรมการบริหารที่จะต้องมีส่วนช่วยในการกำกับดูแลบรรษัทภิบาลของบริษัทจัดการลงทุนแล้ว
บทบาทและหน้าที่ของผู้ลงทุนที่จะตัดสินใจลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมจะมีส่วนสำคัญในการพัฒนาธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการกองทุนรวม
จากการที่ผู้ลงทุนมักจะมิได้ศึกษาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนในกองทุนรวมอย่างรอบคอบ
ทำให้เป็นช่องทางที่ผู้จัดการกองทุนและบริษัทจัดการลงทุนขาดความระมัดระวังในการดำเนินงานกองทุนรวม
และเกิดภาวะภัยทางศีลธรรมได้ง่าย ดังนั้น เพื่อเป็นแรงกดดันให้ผู้จัดการกองทุนและบริษัทจัดการลงทุนดำเนินงานอย่างมีธรรมาภิบาลและคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นหลัก
นักลงทุนต้องมีบทบาทในการตรวจสอบและใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนที่สามารถสะท้อนถึงการบริหารจัดการที่ดีของกองทุนได้
งานศึกษาชิ้นนี้ยังมีข้อเสนอแนะต่อการพัฒนาธุรกิจจัดการกองทุนรวม
ดังนี้
1.
ก.ล.ต. ควรเน้นการเพิ่มบทบาทของคณะกรรมการบริหารของบริษัทจัดการลงทุนให้มีบทบาทในการช่วยการกำกับดูแลบรรษัทภิบาลของบริษัทจัดการกองทุนรวม
และรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นหลักควบคู่กับผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นหรือมากกว่า
โดยอาจยึดเกณฑ์มาตรฐานในการกำกับดูแลบรรษัทภิบาลตามมาตรฐานเดียวกับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ฯ และเพิ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญ คือ ผู้ถือหน่วยลงทุน
2.
บลจ.ควรเปิดเผยข้อมูลที่มากเพียงพอสำหรับนักลงทุนในการตัดสินใจการลงทุน
โดยเฉพาะนโยบายการลงทุนที่มีรายละเอียดเพียงพอให้นักลงทุนคัดเลือกกกองทุนรวมได้ตามวัตถุประสงค์ของการลงทุน
รวมถึงรายชื่อของผู้จัดการกองทุนที่รับผิดชอบ
และค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการกองทุน แต่ทั้งนี้ข้อมูลในส่วนนี้มีบริษัทเอกชนที่เข้ามาส่วนร่วมในการจัดทำข้อมูลเชิงเปรียบเทียบให้นักลงทุนได้ใช้ประโยชน์อยู่บ้างแล้ว
ตัวอย่างเช่นเว็บไซต์ของบริษัทวิจัยมอนิ่งสตาร์ www.morningstarthailand.com
แต่ยังมีข้อมูลบางส่วนที่การให้ข้อมูลของกองทุนรวมเป็นลักษณะภาพรวมมิได้ลงรายละเอียด
เช่น นโยบายการลงทุน หรือการรายงานชื่อผู้จัดการกองทุนเป็นคณะบุคคล
ทำให้นักลงทุนไม่สามารถเลือกกองทุนที่ตรงกับความต้องการอย่างลึกซึ้งได้
หรือมิอาจประเมินผลการดำเนินงานของผู้จัดการกองทุนเป็นราย ๆ ได้
3.
เนื่องจากนักลงทุนรายย่อยของไทยยังขาดความรู้และประสบการณ์ในการจัดสรรการลงทุนที่ตรงกับระดับการยอมรับความเสี่ยง
ทำให้เสียโอกาสในการลงทุนเพื่อสร้างมั่นคงทางการเงินในระยะยาวให้แก่ตนเอง
เนื่องจากมีระดับความรู้ทางการเงิน (Financial Literature)
ไม่มากนัก หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สถาบันความรู้ตลาดทุน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ควรมีบทบาทในการส่งเสริมการให้ความรู้กับนักลงทุนเพื่อสามารถเลือกใช้ข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจลงทุนในกองทุนรวมได้อย่างรอบด้าน
อีกทั้ง บลจ. ควรมีบทบาทในการให้ข้อมูลในเชิงการแนะนำการวางแผนทางการเงินให้แก่นักลงทุน
4.
ก.ล.ต. และสมาคมบริษัทจัดการลงทุนควรมีบทบาทในการสร้างบรรยากาศการขายกองทุนรวมที่จะช่วยให้เกิดการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานของกองทุนรวมได้ง่าย
เพื่อให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุนในกองทุนได้อย่างครบถ้วน เช่น
การเปรียบเทียบผลการดำเนินงานของกองทุนหลาย ๆ กองทุนเพื่อประกอบการตัดสินใจ การใช้เครื่องมือการส่งเสริมการขายที่แข่งขันกันรุนแรงด้วยการลดแลกแจกแถม
ทำให้การตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนถูกบิดเบือนไป ดังนั้น ผู้มีที่เกี่ยวข้องจึงต้องสร้างบรรยากาศและกลไกเพื่อเพิ่มแรงจูงใจในการขายหน่วยลงทุน
และสร้างบรรยากาศในการให้คำแนะนำในการลงทุนที่เน้นประโยชน์ของนักลงทุนเป็นหลักให้เกิดขึ้นได้
5.
ก.ล.ต.และสมาคมบริษัทจัดการลงทุนควรมีบทบาทในการส่งเสริมและสนับสนุนนักลงทุนให้ตัดสินใจภายใต้การใช้ข้อมูลที่เพียงพอต่อการตัดสินใจด้วยการให้ความรู้และสร้างบรรยากาศที่จะกระตุ้นให้นักลงทุนตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ข้อมูลให้รอบด้าน
การจัดเวทีเพื่อให้ความรู้นักลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
รวมถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาเพื่อช่วยการส่งเสริมและกระตุ้นให้นักลงทุนตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ข้อมูลที่จำเป็นก่อนการตัดสินใจลงทุน
รวมถึงการสร้างความมั่นใจในทางที่ถูกต้องเกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวมตราสารทุน
6.
ก.ล.ต. สมาคมบริษัทจัดการลงทุน และบ.ล.จ.
ควรต้องมีบทบาทร่วมกันในการปลุกจิดสำนึกและจริยธรรมในการบริหารจัดการกองทุนรวมให้แก่ผู้จัดการกองทุน
การนำเสนอข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานที่ผิดจริยธรรม
และการสร้างบรรยากาศของการกระตุ้นเตือนให้ผู้จัดการกองทุนตระหนักถึงความสำคัญของจริยธรรมและระมัดระวังในการลงทุนควรเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
7.
เนื่องจากกองทุนรวมทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการลงทุนให้แก่นักลงทุนรายย่อย
กองทุนรวมควรมีบทบาทในการตรวจสอบและติดตามการดำเนินงานของหลักทรัพย์ที่ลงทุนแทนนักลงทุนรายย่อย
เช่น สิทธิในการออกเสียง การเข้าประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น เพื่อรักษาผลประโยชน์ของการลงทุนให้แก่นักลงทุน และส่งเสริมบรรษัทภิบาลในตลาดทุนของไทย
สำหรับผู้ที่สนใจอ่านงานวิจัยชิ้นนี้
สามารถ download
ได้ที่ http://www.econ.nida.ac.th/components/com_booklibrary/ebooks/7-5.pdf