กองทุนรวมถือได้ว่าเป็นเครื่องมือทางการเงินหนึ่งที่มีบทบาทมากขึ้นต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศ
เนื่องจากกองทุนรวมเป็นเครื่องมือในการระดมเงินออม หรือทุนเพื่อการขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจของ
แนวโน้มของการเพิ่มขึ้นของการลงทุนในกองทุนรวมในหลายประเทศทั้งประเทศที่มีระบบการเงินที่พัฒนาก้าวหน้า
และประเทศที่มีระบบการเงินพัฒนาน้อยกว่า แสดงให้เห็นถึงความน่าสนใจของการใช้กองทุนรวมในการเป็นทางเลือกสำหรับการออม
และความต้องการในการใช้กองทุนรวมเป็นเครื่องมือทางการเงินในการระดมเงินทุนเพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
ในปัจจุบันพบว่า
โดยทั่วไปประเทศที่มีระดับการพัฒนาสูงกว่า จะมีระดับรายได้สูงกว่า
และจะเป็นประเทศที่มีปริมาณทุนมากเพียงพอต่อการพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งความต้องการทุนเพื่อการพัฒนาสินค้าและบริการสาธารณะ
(Public goods and services) ที่มีความจำเป็นต่อการยกระดับสวัสดิการสังคมของประเทศ (National
Welfare) ดังนั้น
การเพิ่มขึ้นของการสะสมทุนจะทำให้ประเทศมีปริมาณเงินทุนเพียงพอต่อการพัฒนาประเทศ
ทำให้ประเทศมีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น
และสามารถก่อให้เกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
กองทุนรวมจึงเป็นเครื่องมือหนึ่งทางการเงินที่จะสามารถนำมาใช้ในการส่งเสริมให้เกิดการสะสมทุนภายในประเทศ
ทำให้สามารถดึงดูดเงินทุนจากต่างประเทศเพื่อตอบสนองความต้องการเงินทุนในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
งานศึกษาของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์
ดร.สันติ ชัยศรีสวัสดิ์สุข และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิศิษฏ์ ชัยศรีสวัสดิ์สุข
อาจารย์ประจำคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ได้ศึกษาถึงบทบาทของกองทุนรวมกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยพบว่า
กองทุนรวมมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจในหลายๆ ทางได้แก่
1)
กองทุนรวมช่วยลดต้นทุนทางการเงินสำหรับการระดมทุน
โดยกองทุนรวมเป็นเครื่องมือทางการเงินที่สามารถลดต้นทุนในการระดมเงินทุนของผู้ต้องการเงินทุนได้
ทำให้ภาคธุรกิจที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนมีความได้เปรียบจากการที่สามารถมีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลง
การบริหารจัดการของกองทุนเป็นการระดมเงินออมจากผู้ออม หรือผู้สนใจลงทุนจำนวนมากเพื่อนำเงินทุนที่ได้ไปลงทุนในกิจกรรมที่เฉพาะเจาะจงตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง
2)
กองทุนรวมเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการความเสี่ยง
โดยพัฒนาการของตลาดการเงินทำให้เกิดตราสารทางการเงินจำนวนมากเพื่อการเลือกใช้ในการบริหารจัดการความเสี่ยง
และสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น
ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นและความต้องการที่จะต้องมีการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ
3)
ผู้ออมมีโอกาสที่จะได้รายได้สูงขึ้นในรูปของผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนรวม
(Wealth Channel) โดยกอลทุนรวมเป็นการลงทุนในกองทุนรวมเป็นการเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่ผู้ออมจะสามารถยอมรับได้
ผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนในระยะยาว
4)
กองทุนรวมเป็นการเพิ่มช่องทางงบดุล
(Balance Sheet Channel) โดยในภาคธุรกิจเอกชน
การระดมทุนผ่านกองทุนการเงินเป็นทางเลือกในการระดมทุนที่มีผลกระทบต่อโครงสร้างของงบดุลน้อยกว่าการกู้ยืม
มีผลทำให้ต้นทุนในการระดมทุนต่ำลง นอกจากนี้
กองทุนการเงินยังเป็นช่องทางธุรกิจจะใช้เพื่อการระดมเงินทุนที่ต้องการโดยที่มีผลกระทบต่อสถานะของธุรกิจในงบดุลน้อยกว่า
ทำให้ธุรกิจสามารถระดมเงินทุนที่จำเป็นจำนวนมากได้
5)
กองทุนรวมช่วยกระตุ้นการบริโภคของคนในประเทศ
โดยกองทุนรวมและการบริโภคของไทย โดยกองทุนจะมีบทบาทต่อการตัดสินใจบริโภคของทั้ง
3 กลุ่ม ในการ 1)
เพิ่มปริมาณการบริโภคจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นของรายได้ผลตอบแทนจากการลงทุน
และ 2) ทำให้เกิดพฤติกรรมการบริโภคที่สม่ำเสมอ มีเสถียรภาพ (Smoothing
consumption)
เพราะกองทุนทำให้สามารถบริหารพฤติกรรมการบริโภคได้ดีขึ้น
มีการวางแผนการบริโภคตลอดช่วงอายุขัยสอดคล้องกับหลักของ Permanent income
hypothesis ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในแง่การลดความผันผวนทางเศรษฐกิจในระยะยาว
นอกจากนี้ ในงานศึกษาชิ้นนี้อาศัยการวิเคราะห์อนุกรมเวลาในการทดสอบความสัมพันธ์เชิงดุลยภาพในระยะยาว
(Co-integration
Analysis) ของตัวแปรทางเศรษฐกิจที่สนใจ โดยแบ่งเป็น 3 แบบจำลอง ได้แก่
การทดสอบความสัมพันธ์เชิงดุลยภาพในระยะยาวของอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจกับการขยายตัวของกองทุนรวม
การทดสอบความสัมพันธ์เชิงดุลยภาพในระยะยาวของการบริโภคต่อการเติบโตของกองทุนรวม
และการทดสอบความสัมพันธ์เชิงดุลยภาพในระยะยาวของการลงทุนและการขยายตัวของกองทุนรวม อาศัยการวิเคราะห์อนุกรมเวลาในการทดสอบความสัมพันธ์เชิงดุลยภาพในระยะยาว (Co-integration
Analysis) ของตัวแปรทางเศรษฐกิจที่สนใจ
ผลการศึกษาพบว่า ร้อยละ 1 ของการเติบโตของกองทุนรวมจะทำให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ร้อยละ
0.21 (ถ้ากองทุนขยายตัว
20,000 ล้านบาทจะทำให้เกิดการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศได้ประมาณ
2,800 ล้านบาท) โดยกองทุนรวมทำหน้าที่ในการสนับสนุนให้มีทางเลือกในการระดมทุนที่หลากหลายมากขึ้น
และมีต้นทุนของเงินทุนที่ต่ำลง ซึ่งเป็นการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้ทางหนึ่ง
จึงเป็นส่วนประกอบที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของไทย และช่วยยกระดับรายได้โดยเฉลี่ยของประเทศ
ทางด้านการบริโภค กองทุนรวมมีส่วนในการสนับสนุนการขยายตัวของการบริโภค
โดยร้อยละ 1 ของการขยายตัวของกองทุนรวม
ทำให้เกิดการเติบโตของการบริโภคได้ร้อยละ 0.19 บทบาทของกองทุนรวมต่อการบริโภคเกิดจากการขยายตัวของรายได้
และลดความผันผวนของรายได้ในระยะยาว เพราะผู้ลงทุน หรือผู้ออม มีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม
และสม่ำเสมอในช่วงเวลาของการลงทุน สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนยอมรับ
ทำให้สามารถเพิ่มการบริโภคได้
นอกจากนี้ยังพบว่า กองทุนรวมทำหน้าที่ได้ดีในการเป็นสื่อกลางทางการเงินในการส่งเสริมการระดมเงินทุนในระบบเศรษฐกิจทั้งทางด้านปริมาณเงินทุนที่ต้องการ
และการเป็นทางเลือกในตลาดทุน ซึ่งเป็นการตอบสนองความต้องการเงินทุนเพื่อการลงทุน พบว่า
ในกรณีของประเทศไทย การเติบโตของกองทุนรวมร้อยละ 1 จะส่งเสริมให้เกิดการขยายตัวทางด้านการลงทุนได้ร้อยละ 0.24 ในระยะยาว
ผลการศึกษาที่พบนี่สนับสนุนความสำคัญของตลาดกองทุนรวม
พร้อมทั้งนโยบายที่จะเอื้อไปสู่การพัฒนากองทุนรวมของไทยในอนาคต
เพื่อให้กองทุนรวมเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะมีบทบาทต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ